ยาไวอากร้ามีแบบไหนบ้าง viagra alternative ทางเลือกอื่น ๆ ที่เลือกได้

คนที่ประสบกับปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือโรค ED นั้น คงจะรู้จักกับยาไวอากร้าเป็นอย่างดี เพราะเป็นยาที่ใช้รักษาอาการนี้โดยเฉพาะ ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาเรื่องอวัยวะเพศไม่แข็งตัวจนไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้นั้น กลับมามีอาการแข็งตัวได้ตามปกติ แม้ว่าจะเป็นการช่วยที่ไม่ใช่แบบถาวรก็ตาม แต่ก็ช่วยให้คุณกลับมามีความสุขทางเพศได้ ทั้งนี้ ยาไวอากร้าไม่ได้มีแค่แบบเดียว เพราะยังมีทางเลือกอื่น ๆ อีก ที่เรียกว่า viagra alternative และทางเลือกอื่น ๆ ของยาไวอากร้าที่เราสามารถเลือกได้นั้นมีอะไรบ้าง เรามีมาฝากกัน

viagra alternative ทางเลือกอื่นสำหรับไวอากร้า

นอกไปจากไวอากร้าแล้วนั้น ในทางการแพทย์ยังมียาอื่น ๆ ที่สามารถรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ได้ ซึ่งยาตัวอื่น ๆ นั้น อาจเหมาะกับคุณมากกว่าไวอากร้าก็ได้ ยาอื่น ๆ ที่อาจใช้ในการรักษา ED ได้นั้น เช่น

- Tadalafil (Cialis)

- Vardenafil (Levitra, Staxyn)

- Avanafil (Stendra)

- Alprostadil (Caverject, Caverject Impulse, Edex, Muse)

- การบำบัดด้วยฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งใช้เฉพาะในกรณีที่คุณมีฮอร์โมนเพศชายในระดับต่ำ

ทางเลือกที่เป็นธรรมชาติและไม่ต้องสั่งโดยแพทย์สำหรับการใช้รักษาโรค ED

นอกไปจากการใช้ยาในกลุ่มดังกล่าวแล้วนั้น ยังมีผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ สำหรับใช้ในการรักษา ED ได้อีกด้วย เช่น ยาสมุนไพรต่าง ๆ ที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไปโดยเฉพาะทางอินเทอร์เน็ต แต่ก่อนที่จะตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวช่วยเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อมั่นใจว่าปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อตนเอง เพราะผลิตภัณฑ์บางอย่างอาจไม่ได้รับการทดสอบความปลอดภัยหรือประสิทธิผลโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

ทั้งนี้ ต้องระวังผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่ามีซิลเดนาฟิลด้วย ซึ่งซิลเดนาฟิลเป็นยาที่ออกฤทธิ์ในไวอากร้า และในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่หาซื้อได้ทางออนไลน์ อาจมีการแอบอ้างว่ามียาชนิดนี้อยู่ ดังนั้น ควรระวังยาไวอากร้าปลอมหรือแอบอ้างสรรพคุณ แนะนำให้เลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และเลือกยี่ห้อที่รู้จักเป็นอย่างดี เพราะยาไวอากร้าปลอมนอกจากจะไม่ช่วยให้การแข็งตัวสัมฤทธิ์ผลได้ดีแล้วนั้น ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้อีกด้วย

viagra alternative ทางเลือกของยาไวอากร้า มีอะไรบ้าง

1. เซียลิส (Cialis)

ปกติแล้วไวอากร้านั้นจะประกอบด้วยตัวยาซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ในขณะที่เซียลิสจะประกอบด้วยยาทาดาลาฟิล (Tadalafil) ทั้งไวอากร้าและเซียลิสอยู่ในกลุ่มยาที่เรียกว่าสารยับยั้ง Phosphodiesterase type 5 (PDE5) ซึ่งเซียลิสนั้น จะต้องกินยาอย่างน้อย 30 นาทีก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ และยานี้จะช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้นานถึง 36 ชั่วโมงหลังจากที่กินยาเข้าไป แต่ไม่ควรกินยาเซียลิสเกินวันละครั้ง มีขนาดยาคือ 5 มิลลิกรัม, 10 มิลลิกรัม และ 20 มิลลิกรัม

เราสามารถใช้เซียลิสได้ตามความจำเป็นสำหรับการรักษาโรค ED แต่อีกทางเลือกหนึ่งคือ การกินยาในปริมาณที่น้อยเป็นประจำในแต่ละวัน ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ทุกเมื่อเมื่อคุณมีอารมณ์ทางเพศ วิธีนี้อาจช่วยให้คุณมีเซ็กส์ได้คล่องขึ้นได้

2. ซิลเดนาฟิล (Sildenafil)

ซิลเดนาฟิล เป็นยาที่ออกฤทธิ์ในไวอากร้า นอกจากจะมีจำหน่ายเป็นชื่อการค้าว่าไวอากร้าแล้ว ยังมีจำหน่ายในรูปแบบยาสามัญอีกด้วย ซึ่งไวอากร้าและซิลเดนาฟิลนั้น มีความเหมือนและแตกต่างกัน คือ

- ไวอากร้าจะมีซิลเดนาฟิลเป็นตัวยา และชื่อไวอากร้าคือชื่อทางการค้า ในขณะที่ซิลเดนาฟิลยังมีจำหน่ายเป็นยาสามัญ

- ยาสามัญ คือตัวยาที่ใช้อยู่ในยาที่มีชื่อทางการค้าต่าง ๆ ซึ่งยาสามัญถือได้ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยาทางการค้า และมักจะมีราคาถูกกว่าด้วย

- ไวอากร้าได้รับการรับรองในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ในผู้ชายที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มาในรูปแบบเม็ดและใช้กิน ซึ่งมีขนาดของยาคือ 25 มิลลิกรัม, 50 มิลลิกรัม และ 100 มิลลิกรัม เช่นเดียวกันกับซิลเดนาฟิลบางรูปแบบ ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้รักษาโรค ED ในผู้ชายอายุ 18 ปีขึ้นไปเช่นกัน และมีขนาดของยาเหมือนกันกับไวอากร้า

- นอกจากนี้ซิลเดนาฟิลยังมียาเม็ดขนาด 20 มิลลิกรัมด้วย และนอกจากจะช่วยรักษาอาการ ED ได้แล้วนั้น ซิลเดนาฟิลยังมีรูปแบบอื่น ๆ ที่ใช้ในการรักษาความดันโลหิตสูงในปอดอีกด้วย

3. เลวิตร้า (Levitra)

ในเลวิตร้า จะมีตัวยา วาเดนาฟิล (Vardenafil) ซึ่งจัดว่าเป็นยาในกลุ่ม PDE5 เช่นเดียวกันกับไวอากร้า มีการใช้งานที่คล้ายคลึงกัน และได้รับการรับรองในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) เหมือนกัน ซึ่งยาเหล่านี้จะทำงานเพื่อรักษาโรค ED โดยช่วยให้มีการแข็งตัวของอวัยวะเพศเมื่อมีอารมณ์ทางเพศ แต่ยาจะไม่ได้ผลถ้าร่างกายไม่ถูกกระตุ้น มาในรูปแบบเม็ด ขนาดยาคือ 10 มิลลิกรัม และ 20 มิลลิกรัม ควรกินยาประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนมีเพศสัมพันธ์ ยาตัวนี้จะสามารถช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้นานถึง 4 ชั่วโมงหลังจากกินยา และไม่ควรกินยาเกินวันละครั้ง

ผลข้างเคียงของ viagra alternative

1. เซียลิส (Cialis)

ผลข้างเคียงของเซียลิส จะคล้ายคลึงกับไวอากร้า เพราะมีตัวยาในกลุ่มเดียวกัน ผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงที่อาจพบได้ คือ มีอาการปวดแขนหรือขา, การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน, มีอาการไอ, มีอาการท้องร่วง, ปวดหัว มึนหัว, คัดจมูก, ปวดหลัง, อาหารไม่ย่อย ซึ่งผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นได้ในบางราย และอาการจะหายไปได้เอง

ส่วนผลข้างเคียงที่รุนแรง ที่อาจเกิดขึ้นทั้งกับไวอากร้าและเซียลิส มีดังนี้ เกิดภาวะองคชาตแข็งตัวนานเกินกว่า 4 ชั่วโมงและมีอาการปวดร่วมด้วย (Priapism), มีภาวะสูญเสียการมองเห็น เส้นประสาทตาเสียหาย, สูญเสียการได้ยินอย่างกะทันหัน, ความดันโลหิตต่ำหากกินยาเซียลิสร่วมกับยาอื่น ๆ และปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ที่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นโรคหัวใจและกินยานี้

2. ซิลเดนาฟิล (Sildenafil)

ผลข้างเคียงของไวอากร้า หรือตัวยาซิลเดนาฟิลนั้น มีทั้งอาการรุนแรงและไม่รุนแรง ผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงนั้น ได้แก่ อาการปวดหัว เวียนหัว, อาหารไม่ย่อย, มีการมองเห็นภาพเป็นสีฟ้า, มองเห็นไม่ชัดและมีความไวต่อแสง, มีอาการคัดจมูก, ปวดหลัง, เจ็บกล้ามเนื้อ, ผื่นขึ้น ซึ่งผลข้างเคียงส่วนใหญ่อาจหายไปภายในสองสามวันหรือสองสามสัปดาห์ แต่หากมีอาการรุนแรงขึ้นหรือไม่หาย ควรรีบไปพบแพทย์

ส่วนผลข้างเคียงที่รุนแรงที่เกิดจากไวอากร้านั้น สามารถเกิดขึ้นได้ในบางคน อาการต่าง ๆ มีดังนี้ มีอาการของโรคระบบประสาทตาเสื่อมที่ไม่ใช่เส้นเลือดแดง ซึ่งเป็นภาวะสายตาที่ทำให้เส้นประสาทตาของคุณเสียหาย, มีการมองเห็นลดลงอย่างกะทันหัน, มีการได้ยินลดลงหรือสูญเสียการได้ยินอย่างกะทันหัน ภาวะนี้อาจเกี่ยวข้องกับอาการอื่น ๆ เช่น หูอื้อ เวียนหัว ได้ด้วย ทั้งนี้อาจมีอาการแพ้ยา, ภาวะองคชาตแข็งตัวนาน, ความดันโลหิตต่ำ และปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ได้เช่นกัน

3. เลวิตร้า (Levitra)

ผลข้างเคียงของเลวิตร้า ก็จะคล้ายคลึงกับไวอากร้า คือ มีอาการไซนัสอักเสบ หรือมีการอักเสบในรูจมูก, มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น เป็นไข้หนาวสั่น และปวดเมื่อยตามร่างกาย, มีอาการปวดหัว เวียนหัว, อาหารไม่ย่อย, คัดจมูก, ปวดหลัง อาการเหล่านี้จะเป็นอาการที่ไม่รุนแรงมาก และเกิดขึ้นกับบางราย

ส่วนผลข้างเคียงที่รุนแรงนั้น จะมีอาการแพ้ยา, ภาวะองคชาตแข็งตัวนาน, ความดันโลหิตต่ำจากการกินยาร่วมกับยาอื่น ๆ และปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ที่เกิดขึ้นในผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ และรวมถึงการสูญเสียการได้ยินอย่างกะทันหันด้วย

viagra alternative หรือยาไวอากร้าทางเลือกนั้น ก็มีหลากหลายรูปแบบดังที่กล่าวไป ซึ่งก็สามารถเลือกใช้ได้ตรงตามอาการ ED ของแต่ละคน ทั้งนี้อาจให้แพทย์แนะนำและเป็นผู้วินิจฉัยให้กับเราว่า เราควรรักษาอาการ ED ของเรานั้น ด้วยตัวยาชนิดไหน เพราะแม้ว่ายาไวอากร้าทางเลือกจะมีหลายแบบ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเลือกกินแบบไหนก็ได้ เพราะฉะนั้น ควรศึกษาให้ดีและปรึกษาแพทย์ก่อนกิน